ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค และยังพบว่าในอนาคตกว่า 20% ของคนไทยอยากทำงานทางไกล ซึ่งสายงานที่ต้องการทำงานทางไกลระหว่างช่วงโควิด-19 อันดับหนึ่งคือ Manual Work & Manufacturing รองลงมาคืองาน Digitalisation & Automation และอันดับ 3 คือ Consulting โดยงานในรูปแบบทำงานทางไกล (Remote Working) มักมีสำนักงานตั้งอยู่ต่างประเทศ และทำให้คุณมีโอกาสได้ทำงานในต่างประเทศนั่นเอง ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจทำงานกับบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ มาเรียนรู้กันสักนิดเกี่ยวกับ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) เอกสารสำคัญที่ควรมีก่อนทำงานต่างประเทศ
การไปทำงานต่างประเทศไม่ใช่แค่ได้เปิดโลกกว้างกับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น ยังสร้างรายได้สร้างอนาคตในชีวิต ดังนั้นถ้าใจพร้อมไป สิ่งที่ต้องรู้คือใบอนุญาตทำงานคืออะไร และสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำงานต่างประเทศมีอะไรบ้าง
รู้จักใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
ใบอนุญาตทำงาน คือ ใบอนุญาตประกอบอาชีพสำหรับชาวต่างชาติ เป็นเอกสารสำคัญของชาวต่างชาติเมื่อต้องเดินทางไปทำงานในประเทศอื่น ๆ เพื่อทำธุรกิจ กิจการ หรือการเป็นลูกจ้างตามระยะเวลาที่กำหนด โดยนายจ้างในแต่ละประเทศเป็นผู้ดำเนินการขอให้ โดยจะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงแรงงานของประเทศนั้นให้สามารถรับลูกจ้างต่างชาติได้ เมื่อหมดอายุต้องต่อใหม่ทันที และหากลูกจ้างเปลี่ยนที่ทำงานเปลี่ยนนายจ้างก็ต้องดำเนินการขอใหม่
คุณมีใบอนุญาตทำงานในประเทศนั้น ๆ หรือไม่ คำถามยอดฮิตที่เมื่ออยากไปทำงานต่างประเทศนายจ้างจะต้องถามทั้งนั้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ในประเทศนั้นแล้วจะทำงานที่ไหนก็ได้ แต่หากเรามีใบอนุญาตทำงานจะได้เปรียบในการสมัครงานเพราะบ่งบอกว่าคุณมีคุณสมบัติพื้นฐานครบถ้วน รู้จักขั้นตอนและข้อกำหนดต่าง ๆ ทำให้นายจ้างใหม่ทำเรื่องได้ง่ายและเพิ่มความมั่นใจในการรับเข้าทำงาน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น เช่น ถ้าคนไทยอยากไปทำงานที่ประเทศจีน นอกจากจะต้องมีทักษะภาษาจีนแล้ว ยังต้องขอวีซ่าทำงานประเภท Z ซึ่งกำหนดว่าต้องมีประสบการณ์ทำงานสายนั้น 2 ปี ไม่มีประวัติอาชญากรรม โดยสิ่งที่ต้องมีในการขอวีซ่านี้คือ ใบอนุญาตประกอบอาชีพสำหรับชาวต่างชาติ และจดหมายเชิญจากหน่วยงานที่ประเทศจีนที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น วีซ่าจะมีอายุ 3 เดือน หลังเดินทางถึงจีนต้องขอใบอนุญาตขอพำนักระยะยาว (Residence Permit) เพื่อให้อยู่ทำงานได้สูงสุดถึง 5 ปี
สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจทำงานต่างประเทศ
1) เอกสารต้องพร้อม คือ เอกสารและหลักฐานที่แสดงว่าไปทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่ต้องมีเลยคือคือวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ส่วนเอกสารอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของนายจ้างและแต่ละประเทศ ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลในประเทศนั้น ๆ
2) ภาษาต้องได้ แน่นอนว่านอกจากภาษาอังกฤษที่ควรสื่อสารได้ในชีวิตประจำวันและใช้ในการทำงานได้ดี ไม่ว่าจะไปทำงานประเทศไหนควรต้องสื่อสารภาษาในประเทศนั้น ๆ ได้ อาทิ จีน ไต้หวัน เยอรมัน เกาหลี ฯลฯ เพราะการสื่อสารได้คือสิ่งจำเป็นในการพิจารณาจ้างงาน
3) ทักษะต้องมี ความรู้และประสบการณ์ทำงานในอาชีพนั้น ๆ มีความสำคัญมากในการไปทำงานต่างประเทศ ทำให้นายจ้างตกลงที่จะจ้าง โดยเฉพาะในสาขาที่ขาดแคลนหรือสาขาที่ต้องมีความรู้ความชำนาญเฉพาะทางจะค่อนข้างได้เปรียบในด้านรายได้และการหางาน
4) วางแผนใช้จ่าย เมื่อนายจ้างตกลงรับเข้าทำงานควรต้องคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด ทั้งเงินเดือน ค่าที่พัก ค่าครองชีพ ภาษีที่ต้องจ่าย และค่าอื่น ๆ เพื่อให้รู้ว่าในแต่ละเดือนใช้พอหรือไม่ เหลือเก็บแค่ไหน เพราะในแต่ละประเทศอัตราค่าครองชีพแตกต่างกัน